ส.นายหน้าประกันชงแผนรับเออีซี จัดระเบียบทำธุรกรรมผ่านโบรกเกอร์ไทย 700ราย

 
ส.นายหน้าประกันภัยชง 8 ข้อเสนออ้อน คปภ. หนุนธุรกิจแข่งขันได้ในเออีซี ย้ำปกป้องผู้ประกอบการในประเทศ หวั่นคนอ่อนแอเสี่ยงสูง ขณะที่คนแกร่งมีโอกาสเติบโตอยู่แล้ว
นายจิตวุฒิ ศศิบุตร นายกสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา สมาคมได้ทำหนังสือเพื่อตอบข้อซักถามของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในประเด็นที่ผู้ประกอบการต้องการให้ภาครัฐดำเนินการภายหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ซึ่งสมาคมได้มีข้อเสนอ 8 เรื่องให้กับ คปภ.
ประกอบด้วย 1)การขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มาจากต่างประเทศต้องขายผ่านนายหน้าโบรกเกอร์ประกันภัยไทย 2)ให้นายหน้าขายผลิตภัณฑ์ของไทยในต่างประเทศได้ 3)ให้นายหน้าสามารถขอความเห็นชอบเสนอผลิตภัณฑ์ของต่างประเทศจาก คปภ.ได้โดยตรง 4)ให้คงไว้ซึ่งหลักเกณฑ์ขอใบอนุญาตของนายหน้าต่างประเทศ และการถือหุ้นจากต่างชาติในสัดส่วน 49%
5)ให้นายหน้าสามารถขยายการบริการหรือขยายสาขาออกไปยังต่างประเทศได้ เพื่อรองรับการบริการแก่ผู้ประกอบการไทยที่ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ และได้รับค่าคอมมิสชั่นเต็มจำนวนตามกฎในต่างประเทศ 6)ให้นายหน้าสามารถขายประกันภัยแก่ชาวต่างชาติที่เข้าหรือออกประเทศไทย เช่น นักท่องเที่ยว นักธุรกิจเป็นต้น 7)ไม่อนุญาตให้นายหน้าที่เป็นบุคคลธรรมดาจากต่างประเทศเข้ามาทำธุรกิจในประเทศได้ และ 8)ยกเลิกการกำหนดพิกัดอัตรานายหน้าในประเทศเพื่อให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้
อย่างไรก็ตาม เขาให้ความเห็นว่า นายหน้าไทยมีศักยภาพที่จะเปิดธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านและมีโอกาสเติบโตได้ แต่ต้องเป็นนายหน้าที่มีความแข็งแกร่งพอ โดยปัจจุบันประเทศไทยมีนายหน้าประกันภัยกว่า 700 บริษัท แต่เป็นสมาชิกสมาคมเพียง 80 บริษัท ดังนั้นการเปิดเออีซีแม้จะเป็นโอกาสเติบโตของธุรกิจนายหน้า แต่ก็เป็นความเสี่ยงสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่แข็งแรงเพียงพอเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการจึงต้องพัฒนาศักยภาพทั้งด้านความรู้ ภาษา และความเป็นมืออาชีพ ซึ่งสมาคมจะจัดสัมมนาให้ความรู้เรื่องเออีซี และสร้างบุคลากรมืออาชีพป้อนตลาดมากขึ้น
"ต่อจากนี้ช่องทางการขายประกันภัยและคู่แข่งจะมีมากขึ้น ผลิตภัณฑ์แปลกใหม่เยอะขึ้น หากไม่พัฒนาตัวเองคงอยู่ลำบาก ซึ่งต้องปรับตัวสู่ความเป็นมืออาชีพ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอย่างครบวงจร ดึงในส่วนที่เป็นข้อได้เปรียบด้านความสามารถขายผลิตภัณฑ์ได้หลายบริษัทมาใช้ ด้วยการรู้ให้ลึก รู้ให้จริง และบริการให้ได้"
พร้อมกับกล่าวว่า ภาพรวมของธุรกิจนายหน้าประกันภัยมียอดขายเติบโตต่อเนื่องโดยเฉพาะในฝั่งของประกันวินาศภัยที่มีสัดส่วนเบี้ยรับมากถึง 50% ของเบี้ยรับรวมที่มีอยู่ประมาณ 200,000 ล้านบาท แม้ในปี 2557 ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์จะหดตัวลงค่อนข้างมาก และส่งผลให้เบี้ยประกันภัยทั้งปีน่าจะเติบโตได้แค่ระดับ 2%เท่านั้น แต่ภาพรวมเบี้ยประกันภัยผ่านนายหน้าก็ยังเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 5%
สำหรับปี 2558 คาดว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น และน่าจะส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจประกันภัยและนายหน้าประกันภัยด้วย
"ปีนี้เบี้ยน่าจะเติบโตดีขึ้นจากปีก่อน แต่ปัจจัยเสี่ยงก็มาก โดยเฉพาะการเติบโตทางเศรษฐกิจว่าจะเป็นไปตามที่สำนักวิจัยเศรษฐกิจประเมินไว้หรือไม่ โดยเฉพาะความหวังจากการลงทุนภาครัฐ เพราะไส้ในของเศรษฐกิจตัวอื่น ๆ แย่หมด โดยเฉพาะการส่งออก" นายจิตวุฒิกล่าว
 
ที่มา : มิตรแท้ประกันภัย