เลขาธิการ คปภ.เผย สนช.ไฟเขียวแก้กฎหมายประกันชีวิต-ประกันภัย แจงเตรียมนำเงินกองทุนประกันชีวิต-ประกันวินาศภัยจ่ายลูกค้า 5 บริษัทประกันที่ถูกปิด คาดใช้เงินร่วม 1 พันล้านบาท

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 58 ได้มีการประชุมคณะกรรมการกองทุนประกันชีวิต และกองทุนประกันวินาศภัย เพื่อหารือเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของทั้ง 2 กองทุน ที่จะรับมือกรณีบริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันวินาศภัยถูกเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งกฎหมายแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย และปรับปรุง พ.ร.บ.ประกันชีวิต ได้ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว อยู่ระหว่างรอให้มีผลบังคับใช้

ทั้งนี้ กฎหมายที่แก้ไขดังกล่าวเป็นการปรับปรุงให้สามารถนำเงินสำรองประกันภัยที่อยู่กับ คปภ.มาใช้ช่วยเหลือกรณีบริษัทประกันประสบปัญหาได้ทันที โดยไม่ต้องรอผ่านกระบวนการล้มละลาย จากปัจจุบันต้องผ่านกระบวนการล้มละลายก่อน ทำให้ผู้เอาประกันต้องรอเป็นเวลานานหลายปี

"เมื่อกฎหมายมีผลใช้บังคับ ผลก็คือบริษัทที่เคยถูก คปภ.ปิดไปแล้ว อย่างบริษัทสัมพันธ์ประกันภัย บริษัท เอ.พี.เอฟ.ประกันภัย บริษัทลิเบอร์ตี้ประกันภัย บริษัทวิคตอรี่ประกันภัย และบริษัทส่งเสริมประกันภัย เมื่อถูกปิดไปแล้ว ผู้เอาประกันที่ไม่ได้ย้ายไปบริษัทประกันอื่น หรือรอเงินอยู่ กฎหมายบอกว่ากรมธรรม์ทุกรายของบริษัทที่ถูกปิดไปแล้ว กองทุนจะเข้ามาช่วยเหลือทุกกรมธรรม์รวมกันไม่เกิน 1 ล้านบาท" นายประเวชกล่าว

ทั้งนี้ยกตัวอย่างว่า รถยนต์ที่เอาประกันไว้ เคยประสบอุบัติเหตุชน มีการเคลมไว้ แต่บริษัทประกันที่เอาประกันไว้ถูกปิด ทำให้เคลมไม่ได้ จึงยังมีรายที่รออยู่ในลักษณะนี้ โดยบอร์ดกองทุนได้หารือกันว่า เมื่อกฎหมายที่แก้ไขปรับปรุงผ่านแล้ว ทางกองทุนจะต้องออกมาชำระเงินให้ผู้เอาประกัน และเมื่อชำระเสร็จแล้ว กองทุนจะเข้าไปสวมสิทธิ์ผู้เอาประกันไปที่ศาลล้มละลายกลาง

"จำนวนคนที่เราปิดไปแล้ว 5 บริษัท มีผู้เอาประกันที่ยื่นคำขอประมาณกว่า 1 หมื่นราย ถือว่ามากพอสมควร แต่ตัวเลขยังคำนวณกันอยู่ว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ เพราะต้องพิจารณาให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ตามกฎหมาย โดยจะให้เฉพาะคนถือกรมธรรม์เท่านั้น" นายประเวชกล่าว

นายประเวชกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดแบ่งกลุ่มผู้ที่จะได้รับการชำระเงินคืน อาทิ กลุ่มที่อยู่ที่กรมบังคับคดีเพราะมีการฟ้องล้มละลายไปแล้ว เป็นต้น โดยการเตรียมความพร้อมจะมีวางแนวทางว่า หลังจากนี้จะต้องมีการทำหนังสือไปถึงผู้เอาประกันที่ยื่นขอไว้ เพื่อให้นำหมายเลขบัญชีเงินฝากมาแจ้งเพื่อให้กองทุนโอนเงินให้ ซึ่งทางกองทุนจะมีการส่งข้อความสั้น (SMS) ยืนยันให้ผู้เอาประกันได้ทราบด้วย ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เงินถึงมือผู้เอาประกัน และลดความผิดพลาดต่างๆ

สำหรับวงเงินที่คาดว่าจะต้องจ่ายให้กับผู้เอาประกันทั้ง 5 บริษัทนั้น นายประเวชกล่าวยืนยันว่า กองทุนมีเงินอยู่มากกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอรองรับการจ่ายในกรณีดังกล่าวครบทุกบริษัท โดยเบื้องต้นก็น่าจะอยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดีต้องรอสรุปตัวเลขให้ชัดเจน เนื่องจากผู้เอาประกันส่วนหนึ่งไปยื่นเรื่องไว้ที่กรมบังคับคดี

"เงินกองทุนมีเพียงพอจ่ายแน่ ส่วนตรงนี้เป็นเรื่องของการจัดระเบียบให้เรียบร้อย ให้ประชาชนได้รับความคุ้มครอง สบายใจได้ว่าเงินถึงมือประชาชนแน่ เราถึงออกแบบว่า เมื่อโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว จะต้องมีส่ง SMS ตามไปด้วย เพื่อให้มั่นใจ" เลขาธิการ คปภ.กล่าว

เลขาธิการ คปภ.กล่าวด้วยว่า ในการจัดงาน คปภ.พบสื่อ ในเดือน ก.พ.นี้ ทางสำนักงาน คปภ.จะเชิญผู้จัดการกองทุนประกันชีวิต และผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย มาพูดให้สื่อมวลชนรับทราบ และประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนต่อไป เพื่อให้เข้าใจถึงแนวทางที่ต้องดำเนินการหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้

 

ที่มา : มิตรแท้ประกันภัย