สมาคมนายหน้าฯ แฉเล่ห์โบรกเกอร์แสบ เตรียมหารือ คปภ. ออกกฎคุม หลังพบพฤติกรรมฉกลูกค้าไม่สนจรรยาบรรณ พร้อมอ้างต่อประกันช้าถูกขึ้นเบี้ยจาก คปภ. ยอมรับยอดซื้อรถหดกระทบยอดขายแน่ หวั่นลีสซิ่ง-แบงก์ปล่อยกู้ยากทำรถใหม่หด 10-20% ล่าสุดพบเทรนด์ใหม่ โหมโปรโมชันดึงดูดใจ ทั้งลดเบี้ยต่ำกว่าคู่แข่ง บริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง ฯลฯ

นายจิตวุฒิ ศศิบุตร นายกสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เร็วๆนี้จะนำปัญหาที่เกิดในธุรกิจนายหน้า (โบรกเกอร์) หลังถูกร้องเรียน ว่า มีการแย่งลูกค้า มีหลายโบรกเกอร์แอบอ้างเพื่อให้ได้ลูกค้า เพราะปัจจุบันงานที่โบรกเกอร์ประกันภัยส่งต่อให้กับบริษัทประกันส่วนใหญ่เป็นงานประกันภัยรถยนต์ ทำให้ธุรกิจนายหน้าหรือโบรกเกอร์ต้องแย่งงานโดยงัดกลยุทธ์เพื่อให้ได้งานมากขึ้นโดยไม่สนใจจรรยาบรรณ เมื่อร่วมกับยอดรถใหม่ป้ายแดงที่มีสัดส่วนลดลงหลังหมดนโยบายรถคันแรก และที่เห็นได้ชัด คือ ขณะนี้ธนาคารหลายแห่งคัดเลือกลูกค้ามากขึ้น รวมถึงพิจารณาการปล่อยสินเชื่อโดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้ออย่างเข้มงวดทำให้กำลังซื้อรถใหม่หายไปจากตลาดอย่างเห็นได้ชัดราว 10-20% สำหรับเรื่องที่เป็นปัญหามากที่สุด คือ มีการแอบอ้างว่าได้รายชื่อลูกค้าจากบริษัทดีลเลอร์จำหน่ายรถยนต์ ให้มารับหน้าที่ประสานงานต่อประกันภัยให้กับลูกค้า หรือแม้กระทั่งแอบอ้างว่า ให้ลูกค้าชำระเบี้ยหรือวางมัดจำก่อน 20-30% เพื่อจองสิทธิ์รับโปรโมชันเบี้ยประกันภัยราคาถูก ก่อนที่จะครบกำหนดความคุ้มครอง 5-6 เดือน หรือแม้แต่วางมัดจำช่วงระยะเวลาที่เหลือ เช่นเหลือเวลาอีก 4 เดือน ก็ให้ชำระเป็นรายเดือน เมื่อถึงเวลาก็ให้ชำระส่วนที่เหลือทั้งหมด หรืออ้างว่าการต่อประกันภัยช้าอาจส่งผลทำให้ถูกขึ้นเบี้ยประกันภัย ซึ่งทาง คปภ. จะเป็นฝ่ายปรับขึ้นเบี้ย ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลต่อภาพลักษณ์ของโบรกเกอร์อย่างมากเพราะถูกมองว่าเป็นธุรกิจเข้าข่ายหลอกลวง

เร็วๆ นี้ ได้เตรียมนำเข้าหารือร่วมกับนายอรรถพล พิบูลธนพัฒนา รองเลขาธิการ สายสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในฐานะที่ดูแลงานด้านธุรกิจโบรกเกอร์โดยตรง ซึ่งมี 2-3 เรื่อง คือ ขอให้ คปภ. การเข้ามาดูแลธุรกิจโบรกเกอร์ในแง่จรรยาบรรณ ตลอดจนรายงานข้อมูลพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งพบทั้งโบรกเกอร์รายใหญ่และรายเล็ก ที่มียอดขายไม่กี่สิบล้านจนถึงหลายพันล้านบาท หากไม่มีการเข้ามาดูแล อนาคตอาจสร้างความเสียหายเพราะทำให้โบรกเกอร์ขาดความน่าเชื่อถือได้ โดยแนวทางอาจร้องขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดพร้อมออกกฎระเบียบเพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนแก่โบรกเกอร์อื่น ๆ

ด้านแหล่งข่าวจาก คปภ. ระบุว่า ปัญหาการร้องเรียนถึงพฤติกรรมของโบรกเกอร์ (นายหน้า) ตลอดจนตัวแทนของบริษัทประกันภัยที่เสนอขายประกันภัย จนสร้างความรำคาญมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากหลังหารือกับภาคเอกชนก็มีความเป็นไปได้ที่ในอนาคตหากตรวจพบว่า โบรกเกอร์ใดประพฤติขัดต่อการทำธุรกิจและจรรยาบรรณ ก็อาจนำไปสู่การระงับขายชั่วคราว รวมถึงการประกาศรายชื่อว่าเป็นการทำธุรกิจที่ไม่โปร่งใส โดยเฉพาะกรณีที่แอบอ้างว่า หากไม่รีบต่อประกันก็จะถูกสำนักงาน คปภ. ปรับขึ้นเบี้ยประกันภัย ซึ่งข้อเท็จจริงแล้ว คปภ.เป็นหน่วยงานกำกับธุรกิจประกันภัยให้ดำเนินงานด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม ดังนั้นหากตรวจสอบพบว่า บริษัทใดแอบอ้างจะถือว่ามีความผิด

ขณะเดียวกัน ฐานเศรษฐกิจ สำรวจโปรโมชันของโบรกเกอร์บางราย อาทิ บริษัท ซิลค์สแปน อินชัวร์รันซ์ โบรกเกอร์เรจ จำกัด มีการติดต่อไปยังลูกค้าล่วงหน้าก่อนหมดความคุ้มครอง 2-3 เดือน โดยนำเสนอความคุ้มครองในส่วนของบริษัทอื่น นอกเหนือจากบริษัทเดิมอีกราว 2-4 บริษัท โดยเปรียบเทียบอัตราเบี้ย รวมถึงรายละเอียดของกรมธรรม์ตามที่ลูกค้าต้องการและระบุถึงโปรโมชันประจำเดือนที่ติดต่อ เช่น กรมธรรม์ลูกค้าหมดอายุในเดือนมิถุนายน มีการติดต่อเข้ามาช่วงเดือนมีนาคมพร้อมนำเสนอโปรโมชันผ่อนเบี้ย 0%นาน 10 เดือน กรณีซื้อที่ พ.ร.บ. แถมฟรีความช่วยเหลือบนท้องถนน 24 ชม. ฟรีค่าเดินทางหรือค่าน้ำมันมูลค่า 1,000 บาท (กรณีเป็นฝ่ายถูกและมีเบี้ยประกัน 1 หมื่นบาทขึ้นไป) พร้อมรับส่วนลด 200 บาทหากต่ออายุประกันภัยภายใน 45 วัน บริษัทอาคส์หนุมาน จำกัด ที่ทำธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัย พบว่า มีการเสนอรายละเอียดหลังจากลูกค้าเข้าไปตรวจสอบพร้อมระบุให้โทรกลับเพื่อเสนอรายละเอียดของเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ทางเจ้าหน้าที่จะเสนอว่าหากลูกค้าตัดสินใจทำประกันทันทีจะได้รับคูปองเติมน้ำมัน มูลค่า 500 บาท และรับสิทธิ์ลุ้นคูปองเติมน้ำมันมูลค่า 1 หมื่นบาท

บริษัท ไดเร็กเอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทที่ส่งงานให้กับบริษัท ฟอลคอน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพียงรายเดียว ซึ่งจากการสำรวจพบว่า บริษัทเสนอโปรโมชันบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 500-2,500 บาท (ตามมูลค่าเบี้ยประกันภัย) พร้อมบริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง เป็นต้น

 

ที่มา: มิตรแท้ประกันภัย