เฮ! คปภ.ประกาศเพิ่มวงเงินคุ้มครองพ.ร.บ.ประกันภัยรถภาคบังคับ แต่ไม่ต้องเพิ่มเบี้ยประกันภัย

 
 
คปภ.เพิ่มวงเงินความคุ้มครองการประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) ค่ารักษา-เสียชีวิต-สูญเสียอวัยวะแบบยกแผงโดยไม่เพิ่มเบี้ยประกัน "สุทธิพล" เซ็นคำสั่งนายทะเบียนแล้ว มีผลบังคับใช้ 1 เมษายนนี้ กล่อมบริษัทประกันภัยให้ผู้ทำประกันภัยก่อนหน้านี้ได้รับอานิสงส์ด้วย
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามของสำนักงาน คปภ.ในการรับประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ปรากฏว่า อัตราค่าสินไหมทดแทนต่อเบี้ยประกันภัย (Loss Ratio) มีอัตราค่อนข้างต่ำ เพื่อไม่ให้ประชาชนเสียประโยชน์ที่ควรจะได้รับ จึงควรมีการปรับจำนวนเงินความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยให้สอดคล้องกับเบี้ยประกันภัย โดยสำนักงาน คปภ.ได้เสนอให้มีการปรับเพิ่มความคุ้มครองดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(บอร์ด คปภ.) ครั้งที่ 2/2559 ซึ่งที่ประชุมฯ เห็นด้วยในหลักการของการปรับเพิ่มจำนวนเงินความคุ้มครองสูงสุดตามกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถตามที่สำนักงานฯ เสนอโดยไม่เพิ่มเบี้ยประกันภัย
การปรับเพิ่มจำนวนเงินความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ครั้งนี้เป็นการปรับครั้งแรก โดยกรณีได้รับบาดเจ็บ จากเดิมจะได้รับค่ารักษาพยาบาล 50,000 บาทต่อคน ปรับเพิ่มเป็น 80,000 บาทต่อคน ค่าสินไหมทดแทน กรณีเสียชีวิต/ทุพพลภาพถาวร จากเดิม 200,000 บาทต่อคน ปรับเพิ่มเป็น 300,000 บาทต่อคน และกรณีสูญเสียอวัยวะจากเดิม 200,000 บาท ปรับเพิ่มเป็นระหว่าง 200,000-300,000 บาท
เลขาธิการ คปภ.กล่าวด้วยว่า เพื่อให้การปรับเพิ่มความคุ้มครองครั้งนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา จึงได้เชิญสมาคมประกันวินาศภัยไทย ตัวแทนบริษัทประกันภัยมาหารือร่วมกัน เพื่อรับทราบคำสั่งนายทะเบียน ซึ่งจะเพิ่มวงเงินคุ้มครองดังกล่าว โดยที่ผ่านมามีการประสานงานกับทางสมาคมวินาศภัยไทยมาโดยตลอด ซึ่งการดำเนินงานในเรื่องนี้จะส่งผลดีในภาพรวม เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และจะช่วยให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อระบบประกันภัย รวมทั้งทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อธุรกิจประกันภัยของไทย
โดยที่คำสั่งนายทะเบียนที่มีผลตั้งแต่วันที่1 เมษายน 2559 จะไม่มีผลย้อนไปถึงกรมธรรม์ประกันภัยที่ทำก่อนวันที่ 1 เมษายน 2559 ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและอาจมีการยกเลิกกรมธรรม์เก่าเพื่อเปลี่ยนมาเป็นกรมธรรม์แบบใหม่ ดังนั้นเพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและทำให้ภาพพจน์ของธุรกิจเสียหาย สำนักงาน คปภ.จึงได้ขอความร่วมมือให้บริษัทประกันภัยทุกบริษัทปรับจำนวนเงินคุ้มครองสำหรับกรมธรรม์ประกันภัยเดิมที่ยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาประกันภัยให้เป็นไปตามความคุ้มครองใหม่ไปด้วยพร้อมกันซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดี
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2559 ผมได้ลงนามในคำสั่งนายทะเบียน เรื่องให้ใช้แบบข้อความกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถและกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ รวมการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ในการปรับเพิ่มความคุ้มครองดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 ซึ่งคำสั่งนี้จะมีผลครอบคลุมไปถึงผู้ที่ทำประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท จึงถือเป็นของขวัญที่สำนักงาน คปภ.จะมอบให้กับประชาชนในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้และได้รับความร่วมมือจากบริษัทประกันภัยให้ปรับจำนวนเงินความคุ้มครองรวมไปถึงกรมธรรม์ประกันภัยเดิมที่ทำก่อนวันที่ 1 เมษายน 2559 ด้วย ทำให้ประชาชนได้รับอานิสงส์อย่างเต็มที่"
 
ที่มา:มิตรแท้ประกันภัย