คปภ.ได้ฤกษ์เปิดแผนพัฒนาประกันภัยฉบับที่ 3 เน้นโตยั่งยืน เพิ่มความเชื่อมั่น

 
 
คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อนุมัติหลักการ เปิด "แผนพัฒนาการ ประกันภัย ฉบับที่ 3" ซึ่ง คปภ.จะกำหนดยุทธศาสตร์ ทิศทางการพัฒนาธุรกิจประกันภัยไทยในระยะ 5 ปีข้างหน้า ตั้งแต่ปี 2559 –2563 เรียบร้อย
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า บอร์ด คปภ.ได้เห็นชอบหลักการ "แผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 3" โดยกำหนดยุทธศาสตร์ ทิศทางการพัฒนาธุรกิจประกันภัยไทยในระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2559 -2563)
ทั้งนี้ เป้าหมายของแผนดังกล่าวคือ ทำให้ระบบประกันภัยไทยเติบโตอย่างยั่งยืนและได้รับความเชื่อถือจากประชาชน รวมทั้งมีความมั่นคงและดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแข่งขันได้ในตลาดเสรี ภายใต้ความรู้ความเข้าใจของประชาชน ด้านการตระหนักการใช้ประโยชน์ และเห็นความสำคัญของการประกันภัย
ด้านแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2559 -2563) ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ 1) การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมประกันภัย เพื่อให้บริษัทประกันภัยมีความมั่นคง เข้มแข็งทางการเงิน มีการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณภาพ โดยเร่งพัฒนากรอบการกำกับเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยงระยะที่ 2 และการลดต้นทุนโดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ สนับสนุนการเป็น Digital Business ที่มีการบริหารความเสี่ยง การจัดการ การเปิดเผยข้อมูล และการคัดกรองบุคคลที่มีคุณภาพ รวมถึงการสร้างมาตรฐานเดียวกัน
ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างความรู้และการเข้าถึงการประกันภัย แก่ประชาชนถึงความสำคัญของการประกันภัย ผ่านการสื่อประชาสัมพันธ์ในทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยรายย่อย และประกันภัยที่รองรับสังคมผู้สูงอายุ
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแข่งขัน เพื่อให้บริษัทประกันภัยมีขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเสริมสร้างการแข่งขัน ผ่านการผ่อนคลายการกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้มีความยืดหยุ่นและอิงกลไกตลาดมากขึ้น
ทั้งนี้เป็นการสนับสนุนให้มีการพัฒนาความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยได้ตามความเสี่ยงและความเชี่ยวชาญของบริษัทให้มีการพัฒนาการกำกับและกระบวนการให้ความเห็นชอบ/อนุมัติผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลส่งเสริมการเชื่อมโยงตลาดประกันภัยในภูมิภาคอาเซียน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการประกันภัยใน CLMV รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือด้านวิชาการในกลุ่ม CLMV โดยการถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อพัฒนาธุรกิจประกันภัย
ยุทธศาสตร์ที่ 4 การเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการประกันภัย เพื่อให้ระบบประกันภัยมีโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการพัฒนาธุรกิจประกันภัย โดยพัฒนาและยกระดับบุคลากรประกันภัยให้เป็นมืออาชีพ ด้วยการสร้างมาตรฐานวิชาชีพของบุคลากรประกันภัย สร้างศักยภาพการวิจัยและสารสนเทศ เพื่อให้ระบบประกันภัยมีฐานข้อมูลกลางด้านการประกันภัยที่สมบูรณ์และมีการเชื่อมโยงข้อมูล
ในขณะเดียวกันต้องผลักดันให้การประกันภัยเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะการประกันภัยพืชผลสำหรับเกษตรกร การประกันภัยรถโดยสารสาธารณะ อาคารสาธารณะ เรือโดยสารและสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงการประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพ อีกทั้งจะเสริมสร้างศักยภาพของหน่วยงานกำกับ โดยปรับปรุงและพัฒนากฎหมายเกี่ยวกับการประกันภัย เช่น ปรับปรุงพระราชบัญญัติประกันชีวิตและพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พัฒนากฎหมายประกันภัยทางทะเล ฯลฯ รวมถึงพัฒนาการบังคับใช้กฎหมาย และเตรียมความพร้อมเพื่อการประเมิน Financial Sector Assessment Program (FSAP)
ดร.สุทธิพล กล่าวด้วยว่า ภายหลังจบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 3 คาดหวังว่า Insurance Penetration อยู่ที่ร้อยละ 6.20 จำนวนกรมธรรม์ประกันชีวิตต่อประชากรอยู่ที่ร้อยละ 50มูลค่าเบี้ยประกันภัยต่อหัว (Insurance Density) เท่ากับ 18,000 – 23,000 บาท และสัดส่วนเรื่องร้องเรียนที่เข้าสู่ระบบไกล่เกลี่ยเรื่องร้องเรียนของสำนักงาน คปภ. ต่อจำนวนกรมธรรม์ประกันภัย ไม่เกินร้อยละ 0.016 ทั้งนี้สำนักงาน คปภ. จะได้เร่งผลักดันแผนการปฏิบัติงานร่วมกับธุรกิจประกันภัยและหน่วยงาน ตลอดจนกลุ่มที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานภายใต้แผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 3 บรรลุเป้าหมายต่อไป
 
ที่มา : มิตรแท้ประกันภัย