3 ปีจ่ายเคลมน้ำท่วมเฉียด 4 แสน ล.

 
นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า จากกรณีมหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปี 2554 ซึ่งเป็นอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยในรอบ 100 ปี ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมหาศาล ทั้งภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบ้านเรือนของประชาชน รวมถึงหน่วยงานและธุรกิจการค้าต่างๆ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
โดยมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 13 ล้านคน รวมกว่า 4 ล้านครัวเรือน โดยความเสียหายจากน้ำท่วมในครั้งนี้สูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ความเสียหายที่ผู้เอาประกันภัยเรียกร้องจำนวน 91,099 ราย มีจำนวนเงินเอาประกันภัยรวม 410,421,799,544.46 บาท โดยจ่ายค่าสินไหมทดแทนไปแล้ว 90,342 ราย คิดเป็นร้อยละ 99.17 เป็นจำนวนเงิน 398,726,283,695.93 บาท คิดเป็นร้อยละ 97.15 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 2.85 เป็นประกันภัยการเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) อยู่ระหว่างการดำเนินการซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ จำนวนนี้มีจำนวนเงินที่เอาประกันภัยมากที่สุด คือ ประกันภัยการเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) จำนวน 392,299,311,506.24 บาท รองลงมาคือ ประกันอัคคีภัย (อาคารพาณิชย์/SME) จำนวน 10,812,062,886.60 บาท ประกันภัยรถยนต์ 4,107,612,177.81 บาท ประกันอัคคีภัย (ที่อยู่อาศัย) จำนวน 3,175,569,653.41 บาท และประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุ (PA) จำนวน 27,243,320.40 บาทตามลำดับ และประกันภัยที่มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนครบทุกรายแล้ว ได้แก่ การประกันชีวิตและการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) การประกันภัยรถยนต์ และประกันอัคคีภัย (ที่อยู่อาศัย)
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ภาคธุรกิจประกันวินาศภัยได้มีบทบาทในการบรรเทาความเสียหายต่อลูกค้าที่ประสบกับมหาอุทกภัยเป็นอย่างดี บริษัทประกันวินาศภัยได้ดำเนินการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันภัยทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน และถึงแม้ว่าค่าเสียหายที่ธุรกิจประกันภัยจะต้องจ่ายจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย แต่จากการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว ธุรกิจประกันภัยสามารถพลิกฟื้นสถานะทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถเดินหน้าทำธุรกิจประกันภัยได้ต่อไป จึงเป็นการพิสูจน์ว่าระบบการประกันภัยนั้นสามารถรองรับความเสี่ยงภัยได้เป็นอย่างดี
 
ที่มา : บมจ.มิตรแท้ประกันภัย