บทความโดย: สำเร็จดอทคอม
 

สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ในเอเชียกว่า 20 ประเทศต่างทึ่งบริษัทสหประกันชีวิตในไทยที่เป็นสายเลือดเดียวกับสหกรณ์ โดยบริหารงานแยกจากกฎหมายสหกรณ์

 

ช่วยลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น ไม่แห่บอกเลิกกรมธรรม์หรือเวนคืน เพราะมั่นใจได้รับความคุ้มครองตรงจุดนี้ แม้จะมีกระแสข่าวสะพัด หากหาผู้ร่วมทุนไม่ได้ ชะตาขาดแน่ 

 

นายอำนาจ วงศ์วโรดมพินิจ ผู้ช่วยเลขาธิการสายพัฒนาและวิเคราะห์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบการธุรกิจประกันภัย(คปภ.) เปิดเผยว่า นับเป็นเวลาร่วม 2 ปีตั้งแต่คปภ.ได้สั่งห้ามบริษัท ฟินันซ่า ขายประกันชีวิตลูกค้ารายใหม่เมื่อวันที่11 ก.ย. 2552 เป็นต้นมา เนื่องจากสาเหตุดำรงเงินกองทุนต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดสูงถึง1,034.87 ล้านบาท กระทั่งให้เวลาแก้ปัญหาเงินกองทุน โดยกระทรวงการคลังได้ตั้งคณะกรรมการควบคุมบริษัท

และพยายามหากลุ่มทุนใหม่เข้ามาฟื้นฟูกิจการดังกล่าว เป็นต้นมา แต่ยังไม่สามารถหาผู้เข้ามาร่วมทุนได้จนบัดนี้ กลับไม่ได้ส่งผลกระทบให้ลูกค้าแห่ถอนหรือขอเวนคืนกรมธรรม์ไปมากมายก่ายกองแต่อย่างใด หากมีจำนวนลูกค้าลดลงจากการครบกำหนดสัญญาและไถ่ถอนมากกว่า จากเดิมที่มีกรมธรรม์อยู่ 1 แสนฉบับได้ลดลงเหลือขณะนี้อยู่ประมาณ 8 หมื่นฉบับ ในขณะที่บริษัทยังมีเงินสำรองประกันภัยกว่า 6,000 ล้านบาท 

 

โดยไม่มีผลกระทบต่อบริษัทแต่อย่างใด แม้จะมีลูกค้าลดลงไป 2 หมื่นราย และไม่มีลูกค้าใหม่เนื่องจากถูกคำสั่งห้ามรับประกันลูกค้ารายใหม่เข้ามา แต่ตัวแทนก็ยังให้การบริการดูแลลูกค้าตามปกติ หากจะมีบางส่วนที่ออกไปบ้างเท่านั้น แต่ตัวแทนที่เหลือยังออกให้บริการลูกค้าตามปกติ ในขณะที่ลูกค้าก็ยังจ่ายค่าเบี้ยเข้ามา และมีการเบิกจ่ายค่าสินไหมตามปกติ 

 

ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่า ในแง่จิตวิทยาของลูกค้ามองเห็นว่า ปัจจุบันทางการมีกองทุนประกันชีวิตคุ้มครองลูกค้าในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทอยู่แล้ว จึงไม่ได้ตื่นตระหนกกับเรื่องนี้มากนัก หากจะต้องปิดกิจการหลังจากผู้ร่วมทุนรายใหม่ไม่ได้ก็ตาม ส่วนลูกค้าที่ทำประกันในวงเงินความคุ้มครองเกิน 1 ล้านบาทแทบจะมีอยู่น้อยมาก จึงไม่ได้มีปัญหาความแตกตื่นลูกค้าในส่วนนี้มากนัก ทำให้อัตราความคงอยู่มีถึงประมาณ 70-80% โดยเฉพาะในตลอด 2 ปีมานี้กระแสเงินสดยังบวกอยู่ประมาณ 40-50 ล้านบาท กล่าวคือ เงินค่าเบี้ยที่เข้ามายังสูงกว่ารายจ่ายทั้งหมด แต่ก็ยอมรับว่า ตลอด 2 ปีหากเวลามีข่าวไม่สู้ดีออกมาที ก็จะเป็นแรงกระเพื่อมกระแทกเข้ามาทีหนึ่ง ซึ่งกระทบอยู่ไม่น้อยเช่นกัน แต่บริษัทก็ยังประคับประคองตัวรอดได้ 

 

อนึ่ง ก่อนหน้านี้นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคปภ. ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ภายในสิ้นปีนี้คณะกรรมการคปภ.คงจะตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่า จะดำเนินการแก้ปัญหาของบริษัท ฟินันซ่า ประกันชีวิตอย่างไร หลังจากให้เวลามากว่า 2 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาผู้ร่วมทุนรายใหม่ แต่ถ้าไม่สามารถหาผู้ร่วมทุนได้จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกระบวนการของกฎหมาย โดยจะไม่ปล่อยให้ปัญหายืดเยื้อต่อไปอีก ซึ่งคงขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ คปภ.ว่า จะดำเนินการอย่างไร ถ้าหาผู้ร่วมทุนไม่ได้ ก็มีหลายทางเลือก เช่น ขายทรัพย์สินดีออกไป หรือจะปิดกิจการ โดยขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ คปภ.ที่จะนำเสนอต่อรมว.คลังลงนามเห็นชอบ